หัวข้อ: 'เท้าเหม็น' กับสารพัดวิธีที่หนุ่มๆ คนไหนก็ทำได้ ปัญหากวนใจนี้จะได้หมดไปสักที

[Posthizzt555]

เชื่อได้ว่าคุณผู้ชายหลายคนน่าจะมีปัญหา 'เท้าเหม็น' ที่เกิดจากการใส่รองเท้า หรือถุงเท้ากันอยู่บ้าง ต้องบอกเลยว่าปัญหานี้ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ เพราะนอกจากจะส่งผลกระทบต่อตัวเองในเรื่องบุคลิกภาพและความมั่นใจแล้ว ก็อาจส่งผลกระทบต่อคนรอบข้างได้อีกด้วย วันนี้เรามีข้อมูลดีๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้มาฝาก ไปดูพร้อมกันว่าในความจริงเป็นจริงแล้ว เท้าเหม็น เกิดจากอะไรกันแน่

เท้าเหม็น เกิดจากแบคทีเรียที่มีชื่อว่า 'Micrococcus sedentarius' ที่สามารถพบได้ทั่วไปในสิ่งแวดล้อม ไปจนถึงบริเวณผิวหนังของมนุษย์และสัตว์ หรือกรณีที่สองอาการนี้อาจเกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่มีชื่อว่า 'Corynebacterium species' หรือ 'Staphylococcus aureus' แต่จะพบได้น้อยกว่า เมื่อเราจำเป็นต้องสวมใส่รองเท้าเป็นเวลานาน จะมีเหงื่อออกที่เท้าเป็นจำนวนมาก เป็นเหตุให้เท้าอับชื้นซึ่งเป็นสภาพที่เหมาะแก่การเจริญเติบโตของแบคทีเรียเหล่านี้ โดยแบคทีเรียจะสร้างเอนไซม์ 'Protease' ขึ้นมาย่อยสลายผิวหนังส่วนนอกสุดของฝ่าเท้า ทำให้ฝ่าเท้าเปื่อยยุ่ย มีค่าความเป็นด่างสูง และสร้างสารในกลุ่มซัลเฟอร์ซึ่งเป็นสารที่ทำให้เท้ามีกลิ่นเหม็นนั่นเอง

โดยปกติแล้ว เท้าของคนเราจะมีต่อมเหงื่ออยู่เป็นจำนวนมากกว่า 250,000 ต่อม ซึ่งต่อมเหงื่อเหล่านี้สามารถผลิตเหงื่อได้ตลอดเวลาและผลิตได้มากถึงสัปดาห์ละ 4.5 ลิตรเลยทีเดียว ก็เพื่อให้ผิวเท้าของเราอ่อนนุ่มและยืดหยุ่น แต่หากไม่มีเหงื่อเลย ก็จทำให้เท้าแตกและเจ็บเวลาเดินได้ ดังนั้น เมื่อเหงื่อทำปฏิกิริยากับเชื้อแบคทีเรียที่มหมักหมมอยู่ในรองเท้า จึงกลายเป็นสาเหตุที่ทำให้เท้าเหม็นได้

ต้องดูแลเท้ายังไงไม่ให้มีกลิ่นเหม็น

1. ดูแลและรักษาเท้าอยู่สม่ำเสมอ

เริ่มต้นกันด้วยวิธีง่ายๆ ที่คุณผู้ชายสามารถทำได้ด้วยตัวเองก่อน การดูแลและทำความสะอาดไม่ใช่แค่เพียงใช้น้ำเปล่า หรือปล่อยให้น้ำไหลผ่านตอบอาบน้ำเพียงอย่างเดียว แต่ต้องล้างและฟอกด้วยสบู่ดับกลิ่น อาจเป็นสบู่สมุนไพรที่มีสรรพคุณช่วยในการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย หรือจะใช้เป็นฟุตสครับก็ได้เหมือนกัน จากนั้น ก็ให้ขัดเท้าด้วยแปรง หรือหินให้ทั่ว โดยเน้นที่ซอกเล็บ ง่ามนิ้ว ส้นเท้า และตาตุ่ม เสร็จแล้วก็เช็ดให้แห้ง ต่อด้วยการใช้ครีมบำรุงเท้าโดยเฉพาะ ที่สำคัญ จะต้องตัดเล็บอยู่เสมอ เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค

2. ซักถุงเท้าและทำความสะอาดรองเท้าเป็นประจำ

ถุงเท้าและรองเท้าก็เป็นส่วนที่ทำให้เท้าของเราเหม็นได้ เนื่องจากจะต้องใช้มันอยู่เสมอ บางครั้งก็ต้องใส่ทุกวันและตลอดทั้งวันเท้าของเราก็มีเหงื่อออก จึงนำมาซึ่งการสะสมของเชื้อแบคทีเรียในรองเท้าและอาจทำให้เกิดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ได้ ดังนั้น รองเท้า หากสามารถนำไปซักได้ก็ต้องทำ โดยอาจผสมน้ำยาฆ่าเชื้อลงไป ซักเสร็จก็นำไปตากแดดให้แห้งสนิท แต่หากเป็นร้องเท้าหนังกลับที่ไม่สามารถซักได้ ก็ให้ใช้หนังสือพิมพ์เก่ายัดเข้าไปดูดซับความชื้นและกลิ่นบางส่วนออก จากนั้นให้ถอดพื้นรองเท้าและเชือกออกมาทำความสะอาด อาจใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นผสมกับน้ำยาทำความสะอาดเช็ดให้ทั่วทั้งด้านในและนอก จากนั้นค่อยนำไปผึ่งแดด ผึ่งลมให้แห้งสนิท

3. ใช้ผงแป้ง หรือสเปรย์ดับกลิ่นเท้า

ถึงแม้วิธีนี้จะเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ แต่อย่างน้อยก็ช่วยบรรเทาปัญหาไปได้ก่อนบ้าง เพราะผงแป้ง หรือสเปรย์สามารถช่วยระงับเชื้อราและเชื้อแบคทีเรียแบบเร่งด่วนได้ โดยบางยี่ห้อก็มีส่วนผสมของสมุนไพรที่ช่วยลดกลิ่นอัปและกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ หรือหากพอมีเวลาสักหน่อย เราก็อาจจะทำถุงดับกลิ่นด้วยตัวเองขึ้นมาได้ ให้เลือกใช้น้ำมันตะไคร้หอม ผิวมะกรูด สารส้มสะตุ (ผงสารส้มสีขาว) และผงถ่านมาผสมกัน แล้วใช้ผ้าขาวบาง หรือผ้าที่สามารถระบายอากาศได้ดีห่อ จากนั้นก็เอาไปใส่ไว้ในรองเท้า หรือตู้เก็บรองเท้า หรืออาจใช้เป็นถุงชาที่ชงแล้วใส่ไปในรองเท้าก็ช่วยดูดความชื้นและกำจัดกลิ่นได้เช่นกัน

4. แช่เท้า

นี่เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยดับกลิ่นและบำบัดเท้าของเราไปได้ในตัวด้วยสมุนไพรและวัตถุดิบที่มีอยู่ในบ้าน เช่น ใบสะระแหน่ ขมิ้นชัน เกลือ มะนาว ซึ่งการนำสมุนไพรเหล่านี้มาใช้ดับกลิ่นเท้านับเป็นภูมิปัญญาชาวบ้านที่ได้ผลดีทีเดียว โดยอาจเลือกใช้วิธีต่อไปนี้ก็ได้

• แช่เท้าด้วยน้ำเกลือ : ให้นำเกลือผสมในน้ำอุ่น จากนั้นนำเท้าลงไปแช่ทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที โดยให้ทำเป็นประจำ
  
• แช่ หรือถูเท้าด้วยสารส้ม : ให้นำสารส้มสีขาว หรือที่เรียกว่าสารส้มสะตุมาผสมน้ำอุ่น แล้วนำเท้าลงไปแช่ไว้ประมาณ 15-20 นาที หรืออาจใช้สารส้มที่เป็นก้อนมาถูกให้ทั่วเท้า โดยเน้นตามซอกเล็บ ง่ามนิ้ว ฝ่าเท้า และหลังเท้าให้ทั่ว เนื่องจากสารส้มมีสรรพคุณช่วยลดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ได้
  
• แช่เท้าด้วยขมิ้นชัน : ให้นำขมิ้นชันมาแช่น้ำเปล่าและเกลือทิ้งไว้ประมาณ 3 ชั่วโมง จากนั้นนำมาพอกที่เท้าและหมักโดยการใส่ถุงเท้า หรือถุงพลาสติกหุ้มไว้ ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาทีแล้วล้างออก
  
• แช่เท้าด้วยน้ำส้มสายชู : ให้นำน้ำส้มสายชูชนิดหมักธรรมชาติประมาณ 1 ใน 3 ถ้วยมาผสมกับน้ำอุ่น 1 กะละมังเล็ก แล้วนำเท้ามาแช่ไว้ประมาณ 15 นาที
  
• แช่เท้าด้วยน้ำชา : ให้นำใบชามาต้ม หรือใช้น้ำชาที่ต้มแล้วทิ้งให้พออุ่น จากนั้นเอาแท้ลงมาแช่ โดยสรรพคุณจากชาจะช่วยระงับการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียและลดกลิ่นเท้าได้
  
• แช่เท้าในน้ำมันทีทรี : น้ำมันทีทรี เป็นน้ำมันที่สกัดจากใบทีทรีที่มีคุณสมบัติช่วยในการต้านและฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ ดังนั้น องค์ประกอบทางเคมีในน้ำมันสกัดนี้จึงสามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดกลิ่นเท้าได้
  
• แช่เท้าด้วยน้ำมะนาว : ให้นำมะนาวมาคั้นเอาแต่น้ำ จากนั้นให้นำไปผสมกับน้ำเปล่าในปริมาณเท่าๆ กัน แล้วแช่เท้าทิ้งเอาไว้ หรือจะใช้เปลือกมะนาวที่เอาน้ำออกแล้วมาให้เท้าให้ทั่ว เน้นที่บริเวณง่ามนิ้วและซอกเล็บ เมื่อเสร็จแล้วให้ล้างออกด้วยน้ำสะอาด ทำเช่นนี้เป็นประจำสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง
  
  
  5. ปรึกษาแพทย์เพื่อทำการรักษา
  
  ในบางรายหากมีอาการหนักมากจนกลายเป็นโรคเท้าเหม็น ไม่ว่าจะทำด้วยวิธีไหนก็ยังไม่หายเป็นปกติ แนะนำว่าให้รีบไปพบแพทย์ เพราะอาจเกิดความผิดปกติที่ไม่สามารถรักษาให้หายได้เอง เมื่อแพทย์ทำการตรวจวินิจฉัยแล้ว ก็จะรักษาและจ่ายยาปฏิชีวนะ หรือยาฆ่าเชื้อมาให้ อาจต้องรักษาด้วยวิธีไอออนโตโฟรีซีส (Iontophoresis) ซึ่งเป็นการใช้ประจุไฟฟ้าระงับภาวะเหงื่อออกมาก หรืออาจใช้วิธีฉีดโบทอกซ์เพื่อลดเหงื่อเฉพาะที่ หรือในท้ายที่สุด อาจต้องผ่าตัดเส้นประสาทลดการเกิดเหงื่อที่เท้า
  
  อ่านเพิ่มเติม : ผู้ชาย
  
  Tags :  ไลฟ์สไตล์ผู้ชาย