7 สิ่งที่คุณต้องรู้ก่อนจัดงานเลี้ยง งานจัดเลี้ยงนอกสถานที่1. วันเวลาที่จะจัดงาน และจำนวนแขกที่น่าจะมาร่วมงาน วัยของผู้ร่วมงาน ถ้างานปาร์ตี้ของคุณผู้ร่วมงานมีวัยต่างกันลักษณะของงาน และอาหารก็จะมีรายละเอียดที่แตกต่างไปอีกด้วย
2. ก่อนการจัดงานอย่าลืมนึกถึงค่าใช้จ่ายต่างๆ ให้ครบ จะต้องไม่จ่ายเกินงบประมาณที่เราตั้งไว้โดยเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นแล้วค่าใช้จ่ายในปาร์ตี้ครั้งนี้จะบานปลาย จากที่จะสนุกก็จะกลายมาเป็นกุมขมับหลังงานเลี้ยงนั่นเอง
3. เตรียมการจัดตกแต่งสถานที่ ไม่ว่าจะเป็น ลูกโป่ง ดอกไม้ ริบบิ้น หรือ โบ กระดาษสี กระดาษริ้ว เลือกให้เหมาะกับแขกที่จะมางาน ถ้าเป็นงานที่มีเด็กๆ ด้วย ลูกโป่ง และกระดาษริ้วสีๆ ช่วยสร้างสีสันให้กับงานได้เป็นอย่างดี ไม่น่าเบื่อ ทำให้เด็กๆ สนุกกับงาน และสามารถเดินถือลูกโป่งกลับบ้านหลังจากงานเลิกได้ด้วย
4. เตรียมรายการอาหาร และเครื่องดื่มที่จะให้บริการ จัดเตรียมเครื่องมือเครื่องใช้อย่าง แก้วพลาสติก จานกระดาษ เพื่อช่วยลดการเก็บกวาดหลังงานเลี้ยง ในกรณีที่จะจัดงานเลี้ยงแบบค็อกเทลให้ลูก คุณพ่อคุณแม่ก็สามารถที่จะดัดแปลงให้เหมาะสมกับเด็ก เพื่อให้เด็กๆ สนุกสนานอย่างเต็มที่
5. อีกสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรมองข้ามก็คือ การเตรียมน้ำแข็งให้เพียงพอ สำหรับเมืองร้อนอย่างบ้านเรา น้ำแข็งถือเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับเครื่องดื่มอย่างมาก บางคนมองเลยข้ามไปทำให้ปาร์ตี้สะดุดไม่ราบรื่น เพียงเพราะน้ำแข็งไม่เพียงพอ ดังนั้นประเมินการใช้น้ำแข็งให้ดี อย่าลืมนึกถึงด้วยว่าน้ำแข็งสามารถละลายได้ ดังนั้นควรเตรียมเผื่อไว้มากกว่าเตรียมไว้พอดี
6. เตรียมเพลงไว้สัก 100-150 เพลง เลือกระดับของเพลงให้เหมาะกับแขกที่มาในงาน ไม่ต้องเปิดเสียงดังมาก เพียงแค่เปิดคลอในงานไปด้วยขณะปาร์ตี้ก็สร้างความเพลิดเพลินให้กับผู้ร่วมงานได้แล้ว
7. จัดเตรียมกิจกรรมอื่นๆ ไว้เสริม หากมีเวลาในการให้แขกได้ร่วมสนุก เช่นการจับสลากรางวัล เหยียบลูกโป่ง เตรียมอุปกรณ์ตกแต่งเสริมต่างๆ เช่น หมวกกระดาษ ป้ายชื่อสติ๊กเกอร์ติดหน้าอก ดอกไม้ หรือลูกโป่งที่ใช้ตกแต่ง
เคล็ดลับการจัดเลี้ยงงานแต่งงานให้ประหยัดงบ
การจัดเลี้ยงงานแต่งงานเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความรู้สึกและความพิเศษของคู่บ่าวสาว แต่ทำให้งานแต่งงานสมบูรณ์แบบในงบประมาณที่กำหนดไว้ก็เป็นเรื่องที่ท้าทาย นี่คือเคล็ดลับในการจัดเลี้ยงงานแต่งงานให้ประหยัดงบ:
1. กำหนดงบประมาณ: เริ่มต้นด้วยการกำหนดงบประมาณเป็นอย่างแรก แล้วแบ่งงบประมาณออกเป็นหมวดหมู่ต่างๆ เช่น สถานที่, อาหาร, ชุด, ดอกไม้, และอื่น ๆ
2. เลือกวันและเวลาที่ไม่ได้เป็นฤดูกาลแต่งงาน: จัดงานในช่วงเวลาหรือเดือนที่ไม่ใช่ฤดูกาลแต่งงานยอดนิยมจะช่วยลดต้นทุนได้ เช่น จัดในช่วงวันธรรมดา
3. เลือกสถานที่ที่มีความหมาย: สถานที่ที่มีความหมายเช่น บ้านของครอบครัว, สวนสาธารณะ, หรือสถานที่ที่ไม่ต้องจ่ายค่าเช่าสูง
4. จัดซื้อเอง: ลองดูว่าสิ่งใดบ้างที่คุณสามารถทำเองได้ เช่น การทำการ์ดเชิญ, การตกแต่ง, หรือการสร้างสิ่งตกแต่ง
5. จำกัดจำนวนแขก: คิดเกี่ยวกับจำนวนแขกที่จะเชิญ การจำกัดจำนวนแขกช่วยลดต้นทุนอาหารและเครื่องดื่ม
6. ซื้อชุดแต่งงานที่มีราคาประหยัด: หาชุดแต่งงานในร้านที่มีโปรโมชั่น, ร้านขายชุดมือสอง หรือเช่าชุดแต่งงาน
7. เลือกดอกไม้ในฤดูกาล: ดอกไม้ในฤดูกาลมักจะถูกกว่า และสามารถใช้ดอกไม้ที่ง่ายต่อการหาได้
8. เลือกเครื่องดื่มที่ประหยัด: หากคุณเลือกจัดเลี้ยงเอง, ลองเลือกเครื่องดื่มที่ไม่แพง หรือจำกัดเครื่องดื่มเป็นประเภทบางประเภทเท่านั้น
9. เรียกร้องความช่วยเสริม: มีเพื่อนหรือครอบครัวที่สามารถช่วยเหลือในบางส่วนของงาน ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพ, การดูแลเสียง, หรือการตกแต่ง
10. เปรียบเทียบราคา: อย่าลืมเปรียบเทียบราคาบริการต่างๆ เช่น การจ้างวงดนตรี, ร้านอาหาร, และการขนส่ง
11. ตกแต่งสถานที่ให้เรียบง่าย การตกแต่งสถานที่ก็เป็นค่าใช้จ่ายอย่างหนึ่งในการจัดงานแต่งงาน คู่บ่าวสาวควรเลือกการตกแต่งสถานที่ให้เรียบง่ายและประหยัดค่าใช้จ่าย เช่น การใช้ดอกไม้สดหรือดอกไม้ประดิษฐ์
12. วางแผนล่วงหน้า การวางแผนล่วงหน้าจะช่วยให้คู่บ่าวสาวสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากขึ้น เช่น การจองสถานที่จัดเลี้ยงและอาหารล่วงหน้า
13. ยอมลดบางอย่าง บางครั้งคู่บ่าวสาวอาจต้องยอมลดบางอย่างเพื่อให้สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้ เช่น ลดความหรูหราของงานแต่งงานหรือลดจำนวนแขกที่มาร่วมงาน
แต่สุดท้าย, ความสำคัญที่สุดคือความรู้สึกและความจำเป็นของวันนั้น การจัดงานแต่งงานที่สมบูรณ์แบบไม่จำเป็นต้องแพงที่สุด แต่ความรู้สึกและความทรงจำที่คู่บ่าวสาวได้รับนั้นคือสิ่งที่มีค่าที่สุด.